วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553

พระกริ่งสายวัดสุทัศนเทพวราราม

พูดถึงพระกริ่งวัดสุทัศนฯ ซึ่งเป็นพระยอดนิยมของฅนไทย มีเพื่อนๆหลายฅนได้สอบถามผมมาถึงรายละเอียดและประวัติการสร้างพระกริ่งในสกุลวัดสุทัศนฯ ซึ่งความยากลำบากในการวินิจฉัยพระกริ่งวัดสุทัศนฯ อยู่ตรงที่พระกริ่งวัดสุทัศนมีการแต่งองค์พระให้ดูสวยงามและชัดเจน กรรมวิธีการแต่งพระนั้นก็มีหลายวิธีและหลายช่าง ช่างบางท่านเช่น ท่านอาจารย์หนู ก็เป็นช่างบรมครูใช้กรรมวิธีไล่เนื้อ ไม่ไช้กรรมวิธีการตะไบเนื้อออก เช่นถ้าปรากฏว่าพระกริ่งที่ภายหลังการหล่อพระเสร็จเรียบร้อยแล้วจะเกิดเป็นหลุมเป็นบ่อ เนื่องจากฟองอากาศ พระกริ่งบางองค์เมื่อเทออกมาเสร็จแล้วก็มีบางจุดโป่ง บางจุดเบี้ยว
การแต่งพระที่ถูกตามหลักวิชาการนั้นจะต้องไม่ไช้วิธีการตะไบเนื้อออก แต่ไช้เหล็กแหลมคอ่ยๆ เคาะไล่เนื้อส่วนเกินไห้ยุบและไปโป่งไนบริเวณที่พระกริ่งมีเนื้อยุบ เพื่อไห้พระกริ่งทั้งองค์มีสัดส่วนสมบูรณ์และได้สมดุล ที่ไดที่เป็นรูพรุน และไม่สามารถไล่เนื้อจากจุดไดได้จำเป็นต้องอุดรูพรุนด้วยการเสริมเนื้อ
โดยการนำฉนวนพระกริ่งไนช่อเดียวกันเพื่อไห้เนื้อพระกริ่งเหมือนกันทั้งองค์ เสร็จแล้วเหลาฉนวนไห้แหลมและตอกอุดลงไปในรูที่พรุน พออุดแน่นแล้วจึงตัดฉนวนไห้ชิดกับองค์พระกริ่งเสร็จแล้วจึงใช้เหล็กแหลมไล่เนื้อไห้เต็มและแน่นจนพระกริ่งสมบูรณ์หมดทั้งองค์ อีดทั้งยังไช้เหล็กแหลมค่อยๆ ขูดผิวพระกริ่งให้เรียบและตึงเสมอกันทั้งองค์ กรรมวิธีบรมครูนี้เป็นเรื่องที่ยากและไช้เวลาเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้น ช่างบางท่านจึงไช้วิธีรวบรัดไช้ตะใบถูพระให้เรียบมากก่วาการไล่เนื้อ เป็นเหตุไห้องค์พระกริ่งมีขนาดเล็กและบางลง อันเป็นการแต่งพระที่ไม่ถูกต้อง
เพื่อนๆครับพอดีวันนี้ผมมีธุระด่วนเข้ามาต้องขอโทษจริงๆยังไงพรุ่งนี้ถ้าไม่ติดอะไรผมจะมาต่อไห้นะครับ

วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

พระขุนแผนเครือบวัดใหญ่ชัยมงคล

                                    พระขุนแผนเครือบวัดใหญ่ชัยมงคล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พอดีวันก่อนผมไปใหว้พระที่จ.อยุทยามา วันนี้ผมเลยจะขอพูดถึงพระดีที่หาดูยากจนกลายเป็นตำนาน
นั้นคือพระขุนแผนเครือบวัดใหญ่ชัยมงคลเป็นพระยอดนิยมอันดับ 1 ของ จ.อยุธยาและของประเทศไทย
นอกจากจะเป็นพระที่มีน้อยและหาดูยากแล้ว พุทธลักษณะยังเป็นพระที่มีความสวยงาม มีความลึกและคมชัดอย่างที่จะหาพระเครื่องชนิดไดเทียบเท่าได้ และเอกลักษณ์ที่สำคัญที่สุดคือเป็นพระดินเผาแล้วเครือบสีไว้ตั่งแต่ในสมัยโบราณ สีที่เครือบนั้นยังสดใสและเครือบรักษาศิลปะรายละเอียดของพุทธลักษณะไว้ได้ 100% จึงนับได้ว่าเป็นพระเครื่องที่มีคุณสมบัติและมีเอกลักษณ์ที่พิเศษเป็นเลิศสุดของประวัติการสร้างพระของประเทศไทย
สำหรับตำหนิพิมพ์ทรงนั้นวันนี้ผมจะยังไม่ขอพูดถึง แต่วันนี้ผมจะขอบอกเกี่ยวกับเคล็ดลับการดูนำยาเครือบพระขุนแผนเครือบวัดใหญ่ชัยมงคล ท่านอาจารณ์วิโรจน์ ใบประเสริฐ ใด้แนะนำไว้ว่าให้ใช้ทฤษฎีการดูนำยาเครือบของชามสังคโลกเป็นครูดูการแตกลายงาถ้ารอยแตกลายงาอยู่ลึกอยู่ติดกับเนื้อกระเบื่องดินเผา และผิวบนของนำยาเครือบ จะไม่แตกมีความตึงเรียบเหมือนของไหม่ จึงจะเป็นของแท้ รอยแตกลายงาที่เกิดขึ้นนั้นเกิกจากกระเบื่องดินเผาเมื่อผ่านกาลเวลานานหลายร้อยปีย่อมเกิอการแห้งและหดตัวลงตามธรรมชาติ กระเบื่องดินเผาและนำยาเครือบเป็นวัสดุคนละชนิดกัน การหดตัวจึงไม่เท่ากัน
เป็นเหตุให้นำยาเครือบในบริเวณที่ติดกับกระเบื่องจะเกิดการแตกเป็นลายเส้น เราเรียกว่าแตกลายงา แต่รอยแตกนั้นจะแตกเฉพาะในส่วนที่อยู่ลึกๆเท่านั้นจะไม่แตกทะลุออกมาสู่ผิงนอกของนำยาเครือบโดยเด็ดขาด เพราะฉะนั้นเมื่อดูผิวนำยาเครือบจะดูไสเหมือนนำยาใหม่ๆ

วันอังคารที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2553

พระสมเด็จวัดระฆัง


เจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)
 วันนี้ผมจะไม่ขอกล่าวถึงประวัติของท่านเจ้าพระคุณสมเด็จท่านนะครับเพราะผมเชื่อว่าหล่ายๆท่านคงจะรู้อยู่แล้ว
หรือท่านที่ยังไม่รู้ก็สามารถหาข้อมูลได้ไม่ยาก เพราะท่านเป็นพระที่มีผู้คนให้ความศรัทธาเป็นอันดับต้นๆของเมืองไทยจึงมีข้อมูลให้ได้หาศึกษาอยู่มาก แต่วันนี้ผมจะมาฝากแกรดเล็กๆเกี่ยวกับการศึกษาพระเครื่องของสมเด็จท่าน หลักการดูพระสมเด็จวัดระฆัง
  1. จำพิมพ์ให้แม่น พระสมเด็จวัดระฆัง จะมี 5 พิมพ์ คือ พิมพ์พระประธาน ทรงเจดีย์ เกศบัวตูม ฐานแซม และปรกโพธิ์
  2. ดูจากของจริง และเปรียบเทียบกับ พระพิมพ์สมเด็จอื่นๆ เพื่อดูจุดต่าง
  3. ดูเนื้อ และมวลสาร ส่วนผสมของ พระสมเด็จวัดระฆัง เกิดจาก การนำหินปูน มาเผาไฟ ทุบป่นให้แตกละเอียด เหมือนแป้ง ผสมกับ น้ำมันตังอิ๊วของจีน และมวลสารมงคลต่างๆ อาทิ เศษพระหัก กล้วยนำว้าเกสรดอกไม้แห้ง ข้าวสุก เนื้อพระสมเด็จ จึงมักมี มวลสาร ปรากฏให้เห็น และมักจะมีรอยปูไต่
สำหรับวันนี้ผมขอเกร่นไว้แค่นี้ก่อนแล้ววันหน้าผมจะนำข้อมูลด้านตำหนิต่างๆของแต่ละพิมพ์พร้อมทั้ง            ธรรมชาตืของพระอายุเป็น 100 ปี มาฝากนะครับ

ยินดีต้อนรับทุกท่านครับ

เว็บนี้ผมทำขึ้นเพื่อต้องการจะเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพระเครื่องและเครื่องรางของขลังของฅนไทยให้กับทุกท่านที่มีความสนใจได้ศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้กัน โดยบทความทั้งหมดที่ผมจะนำมาเผยแพร่นั้นผมจะตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าเป็นบทความหรือข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ก่อนทุกครั้งที่จะเขียนลงไนเว็บนี้ แต่หากว่าเกิดความผิดพลาดขึ้นผมก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ